กลยุทธ์บอร์ดเกม I’m the Boss เล่นยังไงให้รวยสุดโต๊ะ

Browse By

ถ้าคุณเคยเล่นหรือกำลังสนใจเกมนี้ จะรู้เลยว่า กลยุทธ์บอร์ดเกม I’m the Boss ไม่ได้มีแค่ “ขอส่วนแบ่งเยอะ ๆ แล้วจบ” แต่มันคือศิลปะการเจรจา การบริหารภาพลักษณ์ และการอ่านเกมคนอื่นไปพร้อมกัน ใครที่เข้าใจโครงเกม อ่านจังหวะเป็น และรู้ว่าเมื่อไหร่ควรยอม เมื่อไหร่ควรดื้อ – โอกาสจะกลายเป็นคนรวยสุดโต๊ะในตอนจบเกมจะพุ่งขึ้นแบบเห็นได้ชัด

และในยุคที่ความสนุกมีได้หลายรูปแบบ ทั้งบอร์ดเกมบนโต๊ะ ทั้งการลุ้นเกมกีฬาและความบันเทิงบนหน้าจอ ใครที่ชอบอารมณ์ “ดีลเงินกองกลาง” แบบในเกมนี้ อาจเก็บลิงก์อย่าง ทางเข้า UFABET ล่าสุด ไว้เป็นอีกโหมดสลับฟีลยามค่ำคืนได้เหมือนกัน แต่ก่อนจะไปดีลกับโลกภายนอก มาลองอัปสกิลเป็น Boss บนโต๊ะนี้ให้สุดกันก่อนดีกว่า


เข้าใจธรรมชาติของเกมก่อน วางกลยุทธ์จะง่ายขึ้นเยอะ

หลายคนเล่นเกมนี้ครั้งแรกแล้วรู้สึกว่า “ก็แค่แบ่งเงินกันนี่นา” แต่จริง ๆ ธรรมชาติของเกมมันลึกกว่านั้นเยอะ ถ้าอยากเล่นแบบมีแผน เราต้องแยกก่อนว่าเกมนี้ให้เราคุมปัจจัยอะไรได้บ้าง

สิ่งที่เรามีอิทธิพลเหนือมันได้ คือ

  • คำพูดและการเจรจา
    คุณเลือกได้ว่าจะพูดแบบไหน เสนอข้อเสนอยังไง ให้คนอื่นรู้สึกว่า “โอเค…ก็ได้วะ”
  • การใช้ไพ่ในมือ (Influence)
    ไพ่คือทรัพยากรที่มีจำกัด ใช้ผิดจังหวะคือเผาทิ้ง ใช้ถูกจังหวะคือพลิกทั้งเกม
  • การสร้างภาพลักษณ์ของตัวเอง
    คุณอยากเป็นคนแบบไหนในสายตาทุกคน?
    • คนใจดีแบ่งเยอะ
    • คนโหดที่ดีลกับแล้วต้องเตรียมใจ
    • หรือคนที่เหมือนจะนิ่ง ๆ แต่มีของตลอด
  • การเลือกดีลที่จะเข้าและดีลที่จะปล่อย
    ไม่ต้องอยู่ทุกดีลก็ชนะได้ สำคัญคืออยู่ใน “ดีลที่ใช่” ในจังหวะที่คุ้ม

พอเราเห็นโครงแบบนี้ชัด ๆ แล้ว การวางแผนในแต่ละช่วงเกมจะง่ายขึ้นมาก ไม่ใช่เล่นไปตามอารมณ์อย่างเดียว


แตกเกมออกเป็นสามช่วง: ต้นเกม กลางเกม ท้ายเกม

แนวคิดหนึ่งที่ช่วยคิดกลยุทธ์ได้ดีคือ “แบ่งเกมออกเป็นสามช่วง” แล้ววางบทบาทของตัวเองในแต่ละเฟส

ช่วงต้นเกม: เก็บข้อมูล สร้างเครดิต สร้างภาพ

ต้นเกมยังไม่ใช่เวลารวยสุดโต๊ะ แต่เป็นช่วง

  • ดูนิสัยเพื่อนว่าใคร
    • ชอบป่วน
    • ชอบเจรจานุ่มนวล
    • หรือเป็นพวกขอแทรกตลอดแต่ไม่อยากถือความเสี่ยง
  • สร้างภาพลักษณ์ให้ตัวเอง
    • ถ้าคุณใจดีเกินไปตั้งแต่แรก เพื่อนจะจำได้ว่า “ดีลกับคนนี้ขอส่วนแบ่งได้เยอะ”
    • ถ้าคุณโหดตั้งแต่ดีลแรก ทุกคนจะไม่อยากดีลด้วยในดีลสำคัญภายหลัง

ทริคช่วงต้นเกม

  • ยอม “เล่นแฟร์กว่าปกติ” นิดหน่อย เพื่อสร้างความรู้สึกว่า “ดีลกับเราพอคุยกันได้”
  • อย่าใช้ไพ่แรง ๆ ตั้งแต่เริ่ม ยกเว้นดีลนั้นมูลค่าสูงผิดปกติ
  • จับตามองว่าใครเก็บไพ่เยอะ แต่ไม่ค่อยโชว์ของเลย คนแบบนี้คือระเบิดเวลา

ช่วงกลางเกม: เริ่มเลือกฝั่ง เริ่มเข้มกับส่วนแบ่ง

ช่วงกลางเกมคือจุดที่เงินเริ่มขยับแรง ใครนำ ใครตาม เริ่มเห็นภาพ

  • คุณควรเริ่ม “คิดเป็นเปอร์เซ็นต์” มากขึ้น
    • ดีลนี้ เงินรวมเท่าไหร่
    • ส่วนแบ่งที่คุณได้คิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด
  • เริ่มต่อรองหนักขึ้นทีละนิด
    • ถ้าเพื่อนเสนอให้น้อยไป ให้ลองโยนประโยคแนว “รอบก่อนฉันก็ยอมไปแล้ว รอบนี้ขอเพิ่มหน่อยนะ”
  • พยายามบัญชีใจว่าใครได้ไปเยอะแล้ว
    • คนที่นำอยู่ ควรถูกกดส่วนแบ่ง
    • คนที่ตามอยู่ ให้บวกเข้าไปในดีลเพื่อใช้เขาเป็นพันธมิตร

ช่วงท้ายเกม: เปิดไพ่ ไม้ตาย พลิกอันดับ

ช่วงท้ายเกมทุกคนจะเริ่มตื่นตัว เพราะดีลท้าย ๆ มูลค่ามักจะสูงกว่าปกติ

  • ไพ่อะไรที่คุณ “เสียดายยังไม่ได้ใช้” = ถึงเวลาปล่อย
  • เป็นช่วงที่คุณอาจยอมให้ดีลแตก ถ้าคนที่กำลังจะรวยคือคู่แข่งโดยตรงที่ทิ้งคุณห่างมากเกินไป
  • ถ้าคุณอยู่กลุ่มกลาง ๆ ของตาราง เงินไม่ทิ้งกันเยอะ คุณอาจเลือกเล่น “ดีลที่ทุกคนได้เงิน” แต่ตัวคุณได้มากสุด

ท้ายเกมคือช่วงที่โค้งสุดท้ายของกราฟชีวิตในเกม ถ้าโค้งนี้คุณเข้าโค้งได้ดี คุณอาจจากอันดับท้าย ๆ พุ่งมาเป็นที่หนึ่งได้แบบเฮทั้งโต๊ะ


ดีลที่ดีไม่ใช่ดีลที่ “กดทุกคน” แต่คือดีลที่ทุกคน “พอรับได้”

หนึ่งในความเข้าใจผิดใหญ่ ๆ ของคนเล่นเกมเจรจาครั้งแรก คือคิดว่า “ฉันยิ่งได้เยอะ คนอื่นยิ่งได้น้อย ยิ่งดี”

แต่ในความเป็นจริงของ กลยุทธ์บอร์ดเกม I’m the Boss

  • ถ้าคุณกดคนอื่นมากไป ดีลจะล่มบ่อย
  • พอทุกคนเริ่มรู้สึกว่า “เล่นกับคนนี้ไม่มีทางได้ส่วนแบ่งคุ้ม” เค้าก็พร้อมจะใช้ไพ่ป่วนคุณทุกครั้งที่มีโอกาส
  • คุณจะกลายเป็นเป้าร่วมของโต๊ะโดยไม่รู้ตัว

ดีลที่ดีในเกมนี้ควรมีคุณสมบัติประมาณนี้

  • ทุกคนที่จำเป็นต่อดีล “ได้อะไรกลับไป” แม้ไม่เท่ากัน
  • คนที่ถือ Investor สำคัญ “รู้สึกว่าตัวเองมีค่าจริง”
  • Boss ได้มากสุด แต่ไม่ถึงกับหน้าเกลียด

ลองคิดแบบนี้:

ถ้าดีลนี้ผ่าน แล้วทุกคนยังอยากดีลกับคุณในอนาคต นั่นแปลว่าคุณกำลังเล่นเกมยาวได้ดี


การใช้ไพ่ให้คุ้มค่า: อย่าเผาจนหมดมือตั้งแต่กลางเกม

ไพ่ Influence คือหัวใจอีกดวงของเกม ใครใช้เป็น = คุมจังหวะทั้งโต๊ะได้ ใครใช้ผิด = หมดไพ่ตอนจังหวะทอง

แนวคิดสำคัญคือ

  • ไพ่ทุกใบมี “ราคา” ในรูปของจังหวะ
    • ไพ่แรง = ควรใช้ในดีลที่มีมูลค่ามากพอ ไม่ใช่ดีลเล็ก ๆ
    • ไพ่เบา ๆ = ใช้สร้างแรงกดดันหรือปรับดีลเล็กน้อย
  • อย่าปล่อยให้มือโล่ง
    • ถ้าคุณใช้ไพ่รัว ๆ ในสอง–สามดีลแรก ต่อไปทุกคนจะรู้ว่า “ตอนนี้ไม่มีของแล้ว” และพร้อมรุมโกยส่วนแบ่งต่อหน้าต่อตา
  • ซ่อนความสามารถของไพ่ในมือ
    • อย่าอวดทุกอย่างตั้งแต่ต้น
    • เช่น ถ้าคุณมีไพ่ที่แย่งเป็น Boss ได้ ลองเก็บไว้จนถึงดีลใหญ่ ๆ จริง ๆ ค่อยเบิร์สออกมา

สายบทบาท: ถ้าคุณอยู่ในสถานการณ์นี้ ควรเล่นแบบไหน

ในหลาย ๆ เกม เรามักจะตกอยู่ใน “บทบาทจำใจ” เช่น

  • กลายเป็นคนที่เงินนำ
  • เป็นคนที่ล้าหลังสุด
  • เป็นคนที่ถือ Investor สำคัญเยอะ
  • หรือเป็นคนที่ไพ่ในมือน้อยมาก

มาดูกันว่าถ้าคุณอยู่ในบทเหล่านี้ คุณควรปรับสไตล์ยังไง

ถ้าคุณนำอยู่แบบชัดเจน

  • คาดได้เลยว่าเพื่อนจะเริ่ม
    • กดส่วนแบ่งคุณทุกดีล
    • ป่วนดีลที่คุณได้เยอะ

กลยุทธ์

  • ยอมลดส่วนแบ่งตัวเองลงบ้าง เพื่อทำให้ดูไม่ทิ้งห่างมาก
  • พยายามเสนอให้ดีลผ่านง่าย ๆ แต่ตัวเองได้ “กลาง ๆ” ไม่ใช่สูงสุดทุกครั้ง
  • ถ้ามีดีลที่คุณได้เยอะมากจริง ๆ ให้เตรียมไพ่กันป่วนไว้บ้าง

ถ้าคุณตามอยู่ห่าง

  • คุณต้องหา “ดีลใหญ่” สักหนึ่งหรือสองดีลที่จะพยุงคุณขึ้นมา

กลยุทธ์

  • เก็บไพ่ไว้หน่อย อย่าใช้ในดีลมูลค่ากลาง ๆ
  • รอจังหวะที่คุณ
    • เป็น Boss
    • หรือถือ Investor สำคัญของดีลใหญ่
  • จากนั้น “เล่นหนัก” เสนอให้ตัวเองได้ขนาดที่ถ้าได้ดีลนี้ผ่านจริง ๆ คุณจะไต่ขึ้นไปใกล้หัวตาราง

ถ้าคุณเป็นคนถือ Investor สำคัญ

นี่คือบทบาททองของเกม เพราะ

  • ถ้าไม่มีคุณ ดีลก็เดินไม่ได้
  • ทุกคนต้องง้อคุณไม่มากก็น้อย

กลยุทธ์

  • อย่าขายตัวเองถูกไป “ขอส่วนแบ่งให้สมศักดิ์ศรี”
  • แต่ก็อย่าดื้อเกินจนดีลแตกบ่อย ทุกคนจะเริ่มหาวิธีเลี่ยงคุณด้วยไพ่
  • สร้างภาพลักษณ์ว่า “ดีลได้ แต่ต้องให้คุ้มหน่อย”

ถ้าคุณไพ่ในมือน้อย หรือไม่ค่อยมีของแรง

ไม่เป็นไร เกมนี้ไม่ได้มีไว้ให้คนถือไพ่เยอะชนะอย่างเดียว

กลยุทธ์

  • เน้นเกมปาก เกมภาพลักษณ์ให้หนักขึ้น
  • ใช้การต่อรองและการจับมือแบบไม่เป็นทางการกับคนอื่น
    • “ฉันไม่มีไพ่หรอก แต่ถ้าดีลนี้แกให้ฉันหน่อย เดี๋ยวดีลหน้า Investor ฉันอยู่ ฉันช่วยดันให้”
  • พยายามอยู่ในดีลแบบ “กินกลาง ๆ” หลายดีลรวด แทนที่จะหวังดีลใหญ่ทีเดียวจบ

กลยุทธ์การพูด: วาทศิลป์ที่ใช้แล้วเพื่อนยอม

ใน กลยุทธ์บอร์ดเกม I’m the Boss สิ่งที่คนมักมองข้ามคือ “ถ้อยคำ” ที่ใช้จริงบนโต๊ะ มันไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่เป็นความรู้สึกของคนในวงด้วย

ตัวอย่างคำพูดที่ช่วยให้ต่อรองง่ายขึ้น

  • แทนที่จะพูดว่า
    • “ให้ฉันมากกว่านี้สิ ไม่งั้นไม่เล่น”
      ลองเปลี่ยนเป็น
    • “ถ้าฉันได้เพิ่มอีกนิดเดียว ฉันว่าดีลนี้ทุกคนจะโอเคขึ้นเยอะเลยนะ”
  • แทนที่จะพูดว่า
    • “นี่ฉันถือ Investor สำคัญเลยนะ ต้องได้เยอะกว่านี้”
      ลองพูดว่า
    • “ถ้าไม่มี Investor ฝั่งฉัน ดีลนี้เดินไม่ได้เลยนะ ขอเพิ่มนิดเดียวให้สมเหตุสมผลหน่อยได้ไหม”

โทนนุ่มนวล + ให้เหตุผล = เพื่อนพร้อมฟังมากกว่าคำสั่งแข็ง ๆ

และในโลกนอกโต๊ะเกม ถ้าคุณชอบการใช้วาทศิลป์ไปต่อยอดในบริบทการเจรจาอื่น ๆ ที่มีเรื่องเงิน เรื่องลุ้น เรื่องเกม หรือกีฬา เข้าร่วมด้วย การลองเปิดโหมดใหม่ดูผ่านลิงก์อย่าง สมัคร UFABET ก็อาจเป็นอีกสนามซ้อมจิตวิทยาการเสี่ยงแบบคนละฟีลกับบอร์ดเกม แต่อยู่ในธีม “การตัดสินใจภายใต้ความกดดัน” คล้าย ๆ กัน


ตัวอย่างสถานการณ์เจาะลึก: เล่นยังไงให้รอดในดีลสุดปั่น

มาดูสถานการณ์สมมติที่เกิดบ่อย แล้วแตกเป็นแนวทางเล่นให้เห็นภาพ

สถานการณ์ที่ 1: คุณเป็น Boss แต่ Investor สำคัญอยู่ในมือเพื่อนที่หวงจัด

  • ดีลนี้มูลค่าสูงมาก
  • Investor ตัวหลักอยู่กับเพื่อนที่ค่อนข้าง “หัวแข็ง”
  • ถ้าให้ไม่ถึงใจเค้า ดีลแตกแน่นอน

แนวทางเล่น

  • ลองให้เค้ามากกว่าคนอื่นในดีลนี้เล็กน้อย เพื่อแสดงความให้เกียรติ
  • เสนอให้คนอื่นที่ไม่จำเป็นได้ส่วนแบ่ง “พอมีส่วนร่วม” แต่ไม่สูง
  • ใช้คำพูดประมาณว่า “ดีลนี้ฉันยอมลดส่วนแบ่งตัวเองลงหน่อย แต่ขอให้ดีลผ่าน ทุกคนได้เงิน โอเคไหม”

เป้าคือ ทำให้คนสำคัญรู้สึกว่า “ถ้าไม่รับดีลนี้ ก็จะเสียดาย”

สถานการณ์ที่ 2: คุณถือไพ่ป่วนแรง แต่ยังไม่เคยเล่นให้ใครเห็น

  • ตอนนี้ทุกคนคิดว่าคุณไม่มีของ
  • ดีลใหญ่กำลังจะเกิด และคุณไม่ได้อยู่ในจำนวนคนที่ได้ส่วนแบ่ง

แนวทางเล่น

  • ใช้ไพ่แรง (เช่น แย่งเป็น Boss หรือดึง Investor เข้ามา) เพื่อแทรกตัวเองในดีล
  • จากนั้นอย่าเรียกส่วนแบ่งเวอร์จนทุกคนอยากให้ดีลแตก ให้เรียกแบบ “เยอะ แต่ยังพอรับได้”
  • สร้างความประทับใจว่า “ถึงจู่ ๆ จะโผล่มา แต่ก็คุยกันรู้เรื่อง”

สถานการณ์ที่ 3: คุณกำลังจะชนะขาด แต่มีดีลใหญ่อีกหนึ่ง–สองดีลท้าย

  • ถ้าดีลเหล่านี้คนอื่นได้เยอะ คุณอาจโดนแซง
  • ถ้าคุณได้เยอะอีก คุณจะโดนรุมป่วนหนักมาก

แนวทางเล่น

  • พยายามเข้าดีลแบบได้ “ไม่มากแต่แน่นอน”
  • เล่นไพ่เพื่อทำให้ดีลที่คนอื่นอาจแซงคุณได้ “ยากขึ้น” เช่น ทำให้ดีลผ่านยาก หรือเปลี่ยนโครงสร้างส่วนแบ่ง
  • อย่าทำตัวเป็น “เป้าสายฟ้า” จนทุกคนเห็นตรงกันว่า “ต้องรุมกดคนนี้ให้ได้”

ตารางสรุปแนวทางกลยุทธ์สำหรับสถานการณ์ยอดฮิต

สถานการณ์ในเกมแนวคิดหลักที่ควรทำสิ่งที่ควรระวัง
คุณเป็น Boss แต่ Investor อยู่ที่คนอื่นให้เกียรติส่วนแบ่งเขามากกว่าคนทั่วไปเล็กน้อยกดเขามากไป ดีลแตก ไม่มีใครได้อะไร
คุณตามหลังมากเก็บไพ่ไว้รอเล่นดีลใหญ่ 1–2 ดีลสุดท้ายเผาไพ่ในดีลเล็กจนไม่เหลืออาวุธในช่วงท้ายเกม
คุณนำโด่งในตารางเงินเล่นกลาง ๆ เน้นให้ดีลผ่านอย่างราบรื่นโลภเกินไปจนก่อศัตรูทั้งโต๊ะ
คุณไพ่ในมือน้อยใช้เกมปาก และจับมือพันธมิตรแบบนิ่ม ๆแสดงอาการสิ้นหวังจนไม่มีใครอยากดึงเข้าดีล
ถือ Investor สำคัญหลายตัวเรียกส่วนแบ่งสมเหตุสมผล แต่อย่างน้อยต้องคุ้มดื้อจนคนอื่นหาวิธีเลี่ยงคุณด้วยไพ่ป่วนทุกประเภท
ไม่ค่อยถนัดเจรจา พูดไม่เก่งโฟกัสที่การให้เหตุผลสั้น ๆ ชัด ๆเงียบเกินไปจนถูกลืมในทุกดีล

ไพ่จิตวิทยา: อ่านโต๊ะ อ่านอารมณ์ แล้วตัดสินใจ

นอกจากไพ่ในมือ เรามี “ไพ่จิตวิทยา” อีกใบที่ใช้ได้ฟรี ๆ ตลอดเกม

อ่านสีหน้าท่าทางคนอื่น

  • คนที่ตาลุกวาวตอนพูดถึงดีล = มักมีอะไรในมือ
  • คนที่นิ่ง ๆ แต่พอมีโอกาสก็แทรก = ชอบเข้าดีลแบบกินกลาง
  • คนที่ยอมง่ายเกินไปในดีลใหญ่ = อาจมีแผนอะไรต่อหรืออยากเซฟไพ่ไว้

ใช้ความเงียบให้เป็น

บางทีการไม่พูดอะไรเลยสักพัก

  • ทำให้คนอื่นเริ่ม “เติมคำในหัวตัวเอง”
  • พอเขาไม่อยากเสี่ยงให้คุณเล่นไพ่ป่วน เขาอาจจะเพิ่มส่วนแบ่งให้คุณเองโดยที่คุณยังไม่ได้ขอด้วยซ้ำ

หลีกเลี่ยงการชนทุกดีล

ถ้าคุณปะทะทุกครั้ง

  • ใช้ไพ่เยอะ
  • เผาพลังใจตัวเองและเพื่อน
  • สร้างภาพลักษณ์ว่า “คนนี้ไม่ยอมใครเลย”

ลองเลือกชนเฉพาะดีลที่คุณมองว่า “คุ้มจริง ๆ” แล้วปล่อยดีลที่ไม่ได้กระทบคุณมากเท่าไหร่ไปบ้าง


ทำให้โต๊ะของคุณเล่นสนุกขึ้น: House Rule & บรรยากาศ

บางวงอาจอยากปรับเกมให้เข้ากับสไตล์เพื่อนตัวเอง

ตัวอย่าง House Rule ที่ลองใช้ได้

  • จำกัดเวลาต่อรองต่อดีล
    • เช่น ดีลหนึ่งไม่เกิน 3 นาที
    • ทำให้เกมไหล ไม่ค้างอยู่นานจนน่าเบื่อ
  • ตั้งกติกาอารมณ์ร่วม
    • ทุกครั้งที่มีคนตะโกน “I’m the Boss!” ทุกคนต้องเคาะโต๊ะพร้อมกัน
    • เสริมฟีลละครเวทีให้เกมสนุกขึ้นอีก
  • โหมดเล่นเพื่อหัวเราะ ไม่เน้นชนะ
    • บอกกันก่อนว่า “รอบนี้เล่นเอามันส์ ใครเล่นแผลง ๆ ขำ ๆ ได้โบนัสแต้มในใจเพื่อน”

บรรยากาศระหว่างเล่น

  • มีของกินเล่นบนโต๊ะ
  • เปิดเพลงชิว ๆ หรือเพลงธีมธุรกิจเบา ๆ
  • อย่าลืมว่าเราเล่นเพื่อสนุก ไม่ใช่เพื่อพิสูจน์ว่าใครเป็นนักเจรจามืออาชีพของจริงในชีวิตจริง

FAQ – คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับกลยุทธ์บอร์ดเกม I’m the Boss

ถาม: ถ้าพูดไม่เก่ง เล่นเกมนี้จะเสียเปรียบไหม?
ตอบ: ไม่ถึงกับเสียเปรียบ แต่คุณต้องเน้น “พูดสั้น ชัด มีเหตุผล” แทนการพูดยาว ๆ ใช้ประโยคง่าย ๆ เช่น “ถ้าดีลนี้ให้ฉันเท่านี้ ฉันสัญญาว่าดีลหน้า Investor ฉันอยู่ จะดันให้” ก็ช่วยให้คนอื่นเห็นค่าคุณได้มากแล้ว

ถาม: ควรเก็บไพ่แรงไว้ถึงท้ายเกมเสมอไหม?
ตอบ: ไม่จำเป็นเสมอไป ถ้าดีลกลางเกมมีมูลค่าสูงและสามารถพาคุณขึ้นนำได้ การใช้ไพ่แรงตอนนั้นก็คุ้ม แต่โดยรวมไม่ควรใช้ไพ่แรงกับดีลที่เงินน้อยเกินไป

ถาม: ถ้าเพื่อนในวงดราม่าง่าย ควรเล่นเกมนี้ยังไงไม่ให้ตีกันจริง?
ตอบ: แนะนำให้ “ตั้งโทน” ตั้งแต่ก่อนเล่น ว่าทุกอย่างในเกมคือเรื่องขำ ๆ และอาจเพิ่มกติกาแบบ โหวต “ดีลแห่งความฮา” หลังจบเกม เพื่อเน้นบรรยากาศสนุกมากกว่าจริงจัง

ถาม: ถ้าฉันตามหลังมาก ๆ ควรทำไงดี นอกจากหวังดีลใหญ่?
ตอบ: นอกจากดีลใหญ่ คุณควรมองหาโอกาสเก็บดีลกลาง ๆ หลายดีลที่คุณได้ส่วนแบ่งดีใช้ได้ และคนอื่นไม่ได้เยอะเกินไป รวมถึงใช้ภาพลักษณ์ “คนตามหลัง” ให้เป็นประโยชน์ ด้วยการให้คนอื่นรู้สึกว่าช่วยคุณแล้วไม่เจ็บตัวมาก

ถาม: ควรเป็น Boss บ่อย ๆ ไหม ถึงจะชนะง่าย?
ตอบ: การเป็น Boss บ่อยทำให้คุณคุมทิศทางดีลได้ แต่ก็เสี่ยงทำให้คุณโดนจับตามองมากขึ้น ถ้าจะเป็น Boss บ่อย ต้องบริหารภาพลักษณ์ดี ๆ และอย่ากดทุกคนแรงเกินไป

ถาม: เล่นครั้งแรก ควรโฟกัสที่อะไรเป็นอันดับแรก?
ตอบ: อย่าเพิ่งโฟกัสชนะ โฟกัสที่ “เข้าใจโครงดีล” ให้รู้ว่า Investor สำคัญแค่ไหน ดีลแต่ละดีลต่างกันยังไง และเข้าใจจังหวะการใช้ไพ่ก่อน พอคุ้นแล้ว รอบต่อ ๆ ไปค่อยเริ่มเล่นกลยุทธ์จริงจังมากขึ้น


กลยุทธ์บอร์ดเกม I’m the Boss คือการบาลานซ์ระหว่างความโลภกับความเนียน

ถ้าจะสรุปสั้น ๆ ว่า กลยุทธ์บอร์ดเกม I’m the Boss ที่ดีหน้าตาเป็นยังไง เราอยากให้คุณจำสามอย่างนี้ไว้

  • รู้คุณค่าตัวเอง แต่ไม่หลงตัวเอง
    ถือ Investor หรือไพ่สำคัญก็เรียกส่วนแบ่งให้สมเหตุสมผล แต่อย่าดื้อจนดีลแตกทุกครั้ง
  • คิดเกมยาว ไม่ใช่ดีลเดียวจบ
    ดีลที่ทำให้ทุกคนอยากดีลกับคุณต่อในอนาคต มีค่ามากกว่าดีลที่คุณรวยคนเดียวแล้วกลายเป็นศัตรูทั้งโต๊ะ
  • กล้าตัดสินใจ แต่ก็กล้าหัวเราะกับผลลัพธ์
    จะหักหลัง จะยอม จะดันดีล หรือจะปล่อยแตก ล้วนเป็นสีสันของเกมนี้ทั้งนั้น

และเหมือนชีวิตจริงที่บางทีเราต้องเจรจากับคน เจรจากับโอกาส และเจรจากับความเสี่ยง บอร์ดเกมหนึ่งกล่องสอนเราเรื่องการตัดสินใจได้เยอะกว่าที่คิด ยิ่งถ้าในวันหนึ่งคุณอยากเปลี่ยนจากดีลบนกระดาน ไปลองดีลกับความตื่นเต้นในโลกกีฬาและความบันเทิงออนไลน์ การมีลิงก์อย่าง ยูฟ่าเบท ติดบุ๊กมาร์กไว้ ก็เหมือนมีอีกหนึ่งโต๊ะให้คุณเลือกขึ้นไปลุ้นตามสไตล์ของตัวเอง

สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าคุณจะเล่นเก่งแค่ไหน ชนะกี่รอบ แพ้กี่เกม สิ่งที่ทำให้ค่ำคืนรอบโต๊ะเกมมีความหมายที่สุด ไม่ใช่แค่เงินในเกม แต่คือเสียงหัวเราะ ประโยค “เฮ้ย แกหักฉัน!” แบบขำ ๆ และโมเมนต์ที่เราได้ลองเป็น “บอสของเรื่องราวตัวเอง” อย่างเต็มที่ ดังนั้นครั้งหน้าที่คุณหยิบกล่องนี้ขึ้นมา อย่าลืมเตือนตัวเองเบา ๆ ว่า…

วันนี้ไม่ใช่แค่เล่นเกม แต่คือวันที่เราจะฝึกเป็น Boss ในแบบฉบับของเราเอง 💼🎲