ถ้าคุณเคยได้ยินชื่อเกมนี้ผ่าน ๆ แต่อยากได้ คู่มือบอร์ดเกม I’m the Boss แบบที่อ่านแล้วหยิบเกมขึ้นมาเล่นกับเพื่อนได้เลย ไม่ต้องนั่งงมหรือเปิดกติกาเป็นเล่ม ๆ บทความนี้คือคู่มือแบบ “เพื่อนสอนเพื่อน” ที่จะพาไปดูตั้งแต่ในกล่องมีอะไร การเซ็ตเกม การเล่นในหนึ่งเทิร์น ไปจนถึงไพ่แต่ละแบบใช้ยังไง พร้อมตัวอย่างสถานการณ์ให้เห็นภาพจริงบนโต๊ะ

เสน่ห์ของเกมนี้คือการ “ดีลเงินกองกลาง” ผ่านการคุย ต่อรอง แซะกันไปมา บรรยากาศจะคล้ายโต๊ะเจรจาธุรกิจที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและเสียงโวยวายเบา ๆ เวลาดีลแตก คนที่ชอบความรู้สึกได้ลุ้น ได้อ่านเกมคนอื่น จะตกหลุมรักเร็วมาก และถ้าคุณเป็นสายเปลี่ยนโหมดความสนุกจากโต๊ะเกมไปสู่การลุ้นโลกกีฬา/ความบันเทิงบนหน้าจอ บางคนก็มักจะมีลิงก์อย่าง ทางเข้า UFABET ล่าสุด ติดตัวไว้เหมือนเป็นอีกโต๊ะให้ไปลองเสี่ยงเล่นนอกเกมกระดาน แต่ตอนนี้…มาโฟกัสโต๊ะบอร์ดเกมตรงหน้าให้มันส์ก่อน
รู้จักโครงหลักของเกมก่อน: เงิน ดีล และ Boss
หัวใจของบอร์ดเกมนี้มีอยู่แค่ไม่กี่คำ
- เงิน (แบงก์ในเกม)
- ดีล (โปรเจกต์ลงทุนแต่ละอันบนกระดาน)
- Boss (คนเปิดโต๊ะดีลในรอบนั้น ๆ)
- Investor (นักลงทุนที่จำเป็นต้อง “เข้า” ดีล ถึงจะผ่าน)
- ไพ่ Influence (ไพ่ปั่นเกมที่ทำให้ทุกอย่างไม่แน่นอน)
ทุกอย่างหมุนอยู่รอบ ๆ แนวคิดนี้:
ทุกคนอยากได้เงินเยอะที่สุด แต่ดีลจะผ่านได้ต้องอาศัยคนอื่นร่วมวงด้วย
หมายความว่า ต่อให้คุณเก่งแค่ไหน คุณไม่มีทางรวยอยู่คนเดียวได้โดยไม่ต้องพึ่งใคร เพราะดีลส่วนใหญ่ต้องใช้ Investor จากหลายคนบนโต๊ะ จึงจะจบดีลได้
ในกล่องบอร์ดเกม I’m the Boss มีอะไรบ้าง
เวลาหยิบเกมขึ้นมาแกะ ในกล่องของ I’m the Boss โดยหลัก ๆ จะมีอุปกรณ์ประมาณนี้ (อาจต่างกันเล็กน้อยตามเวอร์ชันพิมพ์)
- กระดานเกม
เป็นแผ่นกระดานยาว ๆ มีช่องดีลเลขเรียงกัน แต่ละช่องจะบอกว่า- ใช้ Investor ตัวไหนบ้าง
- มีจำนวน “หุ้น” กี่หน่วย
- เป็นดีลลำดับที่เท่าไหร่ในเกม
- แผ่นดีล (Deal Tiles)
เป็นแผ่นเล็ก ๆ วางบนกระดาน บอก “ราคาเงินต่อหุ้น” ของดีลนั้น เช่น หุ้นละ 2 ล้าน, 5 ล้าน, 8 ล้าน ฯลฯ พอดีลเกิดขึ้น เราก็เอาราคาต่อหุ้นในดีลนั้นมาคูณจำนวนหุ้นแล้วแบ่งเงินกัน - การ์ด Investor
เป็นตัวแทนนักลงทุนแต่ละคน มีชื่อ/สัญลักษณ์แตกต่างกัน- ผู้เล่นจะถือ Investor บางตัวในมือตัวเอง
- ถ้าดีลนั้นต้องใช้ Investor A และ A อยู่ในมือคุณ นั่นแปลว่าคุณ “จำเป็นต่อดีล” ทันที
- ไพ่ Influence
กองนี้คือความปั่นของเกม มีหลายประเภท เช่น- ไพ่ดึง Investor เพิ่ม
- ไพ่ส่ง Investor ไปต่างประเทศ (ออกจากดีลดังกล่าว)
- ไพ่แย่งเป็น Boss
- ไพ่ยกเลิกไพ่คนอื่น
ฯลฯ
- เงิน (แบงก์ในเกม)
ใช้แทนกำไรจากแต่ละดีล ใครเก็บเงินมากสุดตอนจบคือผู้ชนะ - หมากบอกตำแหน่งดีล + ลูกเต๋า
ใช้สำหรับเลื่อนตำแหน่งดีลบนกระดานในแต่ละเทิร์น
เป้าหมายของเกม: รวยสุดโต๊ะตอนจบ
กติกาชนะง่ายมาก:
เมื่อเล่นครบจำนวนดีลที่กำหนดแล้ว ใครมีเงินมากที่สุดบนมือคือผู้ชนะ
แต่เส้นทางไปถึงจุดนั้นนี่แหละที่มันสนุก
- คุณต้อง “ต่อรอง” เพื่อให้ได้ส่วนแบ่งที่สมเหตุสมผล
- บางครั้งต้องยอมได้ส่วนแบ่งน้อยลง เพื่อให้ดีลผ่าน
- บางครั้งต้องป่วนให้ดีลคนอื่นแตก เพราะถ้าปล่อยผ่านเขาจะหนีห่างไปไกล
เกมนี้ไม่ได้ให้รางวัลคนโลภสุด แต่ให้รางวัลกับคนที่ “เก่งในการบาลานซ์” ความโลภ กับความสามารถในการดึงคนอื่นมาร่วมดีลได้สำเร็จ
การเตรียมเกมและการ Setup
ก่อนเริ่มเล่น ให้ทำตามขั้นนี้ทีละข้อ (อ่านไปทำไปได้เลย)
จัดโต๊ะและเลือกที่นั่ง
- วางกระดานเกมตรงกลาง
- ให้ทุกคนเห็นช่องดีลได้ชัด
- วางเงินกองกลางในที่หยิบง่าย
เตรียม Deal Tiles
- สับหรือจัดเรียงแผ่นดีลตามกติกาเวอร์ชันที่คุณมี
- วางบนช่องต่าง ๆ ที่กระดานกำหนด (เช่น ดีลที่ 1–15)
แจก Investor และไพ่ Influence
- ตามกติกาแต่ละฉบับจะกำหนดว่า
- Investor แต่ละตัวไปอยู่ที่ใคร
- ไพ่ Influence เริ่มต้นคนละกี่ใบ
โดยส่วนใหญ่จะ
- แจกไพ่ Influence ให้ผู้เล่นทุกคนเท่า ๆ กัน
- Investor บางส่วนถูกแจกให้ผู้เล่น คนละไม่เท่ากัน
- Investor บางตัวอาจ “ว่าง” ยังไม่อยู่ในมือนักลงทุนคนใด จนกว่าจะมีการใช้ไพ่ดึงมา
เลือกผู้เล่นคนแรก
อาจใช้วิธีนี้ได้
- คนที่แต่งตัวเหมือน Boss สุด
- คนที่มาก่อน
- ทอยเต๋าใครได้แต้มมากสุดเริ่มก่อน
แนะนำเลือกแบบกึ่งขำ ๆ หน่อย บรรยากาศจะชิลตั้งแต่ยังไม่เริ่มเกม
ลำดับการเล่นหนึ่งเทิร์น: ภาพรวม
ในหนึ่งเทิร์นของผู้เล่นจะมีโครงประมาณนี้
- เลือกว่าจะ “เลื่อนดีล” หรือ “ลองทำดีลนี้เลย”
- ถ้าเลือกทำดีล – คุณกลายเป็น Boss และเริ่มเสนอส่วนแบ่ง
- ผู้เล่นคนอื่นต่อรอง ขอเพิ่ม ขอแทรก ขอเข้าดีล
- ทุกคนที่จำเป็นต่อดีลต้อง “โอเค” ถ้าจะให้ดีลผ่าน
- ระหว่างดีล ทุกคนสามารถใช้ไพ่ Influence เพื่อป่วน/ช่วยดีลได้
- ถ้าดีลผ่าน แจกเงินตามที่ตกลง
- ถ้าดีลไม่ผ่าน ดีลแตก ทุกคนไม่ได้อะไร เทิร์นจบ
เดี๋ยวเรามาดูแบบละเอียดทีละขั้น
ขั้นที่ 1: เลื่อนดีลหรือไม่?
พอถึงตาคุณ
- คุณจะมองที่ตำแหน่งหมากดีลบนกระดาน
- จากนั้นเลือกได้สองทาง
ทางเลือก A: ทอยเต๋าเลื่อนดีล
- ทอยเต๋าแล้วเลื่อนหมากไปตามจำนวนแต้ม
- ไปหยุดที่ดีลใหม่ที่อาจจะ “คุ้มกว่า” หรือไม่ก็ได้
- เหมาะถ้าดีลปัจจุบันดูไม่เวิร์กสำหรับคุณ เช่น
- คุณไม่มี Investor สำคัญ
- ดีลนี้ให้เงินน้อยเมื่อเทียบกับดีลอื่นบนกระดาน
ทางเลือก B: ไม่เลื่อนดีล พุ่งทำดีลเลย
- ถ้าคุณชอบดีลที่อยู่ตรงหน้า
- คุณสามารถประกาศทำดีลทันที
- แล้วคุณจะกลายเป็น Boss ของรอบนั้น
การตัดสินใจตรงนี้สำคัญมาก เพราะมันกำหนดว่า “เทิร์นนี้คุณจะเป็นคนดันดีล” หรือจะให้เกมเลื่อนไปเรื่อย ๆ เพื่อรอจังหวะที่เหมาะกับตัวเอง
ขั้นที่ 2: บท Boss – เปิดโต๊ะดีล
ถ้าคุณเลือกทำดีล ณ จุดที่หมากอยู่
- คุณคือ Boss ของรอบ
- หน้าที่ของคุณคือ
- ดูเงื่อนไขดีลว่า ต้องใช้ Investor ตัวไหนบ้าง
- ดูว่าตัวไหนอยู่ในมือใคร
- แล้ว “ออกข้อเสนอ” ว่าจะให้ส่วนแบ่งใครเท่าไหร่
ตัวอย่างเช่น
- ดีลนี้มี 7 หุ้น
- ต้องใช้ Investor A, B, C
- Investor A อยู่ในมือคุณ, B อยู่เพื่อนซ้าย, C อยู่เพื่อนขวา
คุณอาจเสนอว่า
- Boss (คุณ): 3 หุ้น
- เพื่อนซ้าย (B): 2 หุ้น
- เพื่อนขวา (C): 1 หุ้น
- อีก 1 หุ้นแจกให้ใครสักคนเพื่อให้มาช่วยสนับสนุนดีลหรือเป็นการ “ซื้อใจ”
การตั้งต้นแบบนี้จะเป็นเพียง “ข้อเสนอแรก” เท่านั้น เพราะหลังจากนี้คือเวลาแห่งการต่อรอง
ขั้นที่ 3: ช่วงเวลาแห่งการต่อรอง
พอ Boss เสนอจบ ปกติโต๊ะจะพูดกันเสียงดังขึ้นทันที
คนที่เกี่ยวข้องสามารถทำได้หลายอย่าง เช่น
- คนถือ Investor สำคัญ “ขอเพิ่มส่วนแบ่ง”
- “ฉันถือ Investor C นะ ให้แค่ 1 หุ้นน้อยไปปะ?”
- คนที่ไม่ได้อยู่ในดีลดั้งเดิม “ขอแทรก”
- “ถ้าให้ฉัน 1 หุ้น ฉันจะไม่ป่วนดีลนี้เลย แถมช่วยเกลี้ยกล่อมให้ผ่านด้วย”
หัวใจช่วงนี้คือการพูดคุย จับทางกัน และตกลงให้ได้ว่า
ใครจะได้หุ้นเท่าไหร่ เพื่อให้ทุกคนที่จำเป็นต่อดีล “พอใจพอจะกดโอเค”
ถ้าคุยกันจนลงตัวแล้วค่อยไปขั้นถัดไป แต่บ่อยครั้งแหละ…ไม่ค่อยลงตัวง่าย ๆ หรอก
ขั้นที่ 4: ไพ่ Influence ลงสนาม
ระหว่างดีล ผู้เล่นทุกคนสามารถใช้ไพ่ Influence ที่ถืออยู่ในมือ เพื่อ
- ปรับโครงสร้างดีล
- ทำให้ดีลง่ายขึ้น
- หรือป่วนให้ดีลยากขึ้น/แตกไปเลย
ตัวอย่างประเภทไพ่ที่เจอบ่อย (ชื่อในแต่ละเวอร์ชันอาจต่างกัน แต่ฟังก์ชันคล้ายกัน)
- ไพ่เพิ่ม Investor / ตัวแทน Investor
- สร้าง Investor เพิ่มเข้ามาในดีล
- ทำให้คนที่ไม่มี Investor ตัวนั้น “ได้ส่วนแบ่ง” ในดีล
- ไพ่ส่ง Investor ไปต่างประเทศ
- ใช้กับ Investor ตัวหนึ่งทำให้ “ใช้ไม่ได้ในดีลนี้”
- ถ้าดีลต้องใช้ Investor ตัวนั้น ดีลจะสะดุดทันที Boss ต้องแก้ใหม่
- ไพ่ยึด Investor
- แย่ง Investor จากมือคนอื่นมาเป็นของผู้เล่นเอง
- เปลี่ยนสมการอำนาจทันทีว่า “ใครสำคัญต่อดีล”
- ไพ่แย่งเป็น Boss (I’m the Boss!)
- ใช้ประกาศว่าจากนี้คุณคือ Boss ใหม่ของดีล
- ข้อเสนอเก่าถือว่ายกเลิก แล้วคุณเป็นคนจัดสรรดีลใหม่หมด
- ไพ่ยกเลิกไพ่
- ใช้เพื่อยกเลิกผลของไพ่ Influence ใบอื่นที่เพิ่งถูกเล่น
ไพ่เหล่านี้ทำให้ไม่มีดีลไหน “ชัวร์” แม้จะตกลงกันเกือบจบแล้วก็ตาม นี่แหละคือความบันเทิงหลักของเกม
กลาง ๆ เกม ถ้ากลุ่มเริ่มคุ้นกันแล้ว บางคนจะใช้ไพ่แบบ “กึ่งบลัฟ” เพื่อขู่คนอื่นเฉย ๆ ว่าฉันมีของนะ แบ่งมาดี ๆ หน่อย ฟีลแบบอ่านเกมกันไม่ต่างจากคนบางกลุ่มที่ชอบไปลุ้นอะไรบนหน้าจอแล้วต้องอ่านจังหวะเข้า–ออกของตัวเองผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่นมีคนในวงที่หลังจบบอร์ดเกมก็ไปจัดโหมดของตัวเองผ่านช่องทางอย่าง สมัคร UFABET กันต่อ อารมณ์ “อ่านเกม–อ่านจังหวะ–บริหารความเสี่ยง” คล้าย ๆ กันเลย
ขั้นที่ 5: ดีลผ่าน หรือดีลแตก
หลังจากเจรจา + ใช้ไพ่กันจนพอใจแล้ว เราจะมาถึงจุดตัดสิน
ดีลผ่าน ถ้า
- ทุกคนที่ถือ Investor จำเป็นต่อดีลนั้น “โอเค” ตามข้อเสนอ
- ไม่มีใครเล่นไพ่ป่วนเพิ่มอีก
เมื่อดีลผ่าน
- เอาจำนวนหุ้นในดีล x ราคาต่อหุ้นบนแผ่นดีล เพื่อคำนวณเงินรวม
- แบ่งเงินตามจำนวนหุ้นที่แต่ละคนได้รับ
- แผ่นดีลนั้นถือว่า “ปิดจบ” เกมจะไม่กลับมาดีลนี้อีก
ดีลแตก ถ้า
- ตกลงกันไม่ได้
- หรือเวลาที่กำหนด (ถ้าตั้ง House Rule) หมดก่อนลงตัว
เมื่อดีลแตก
- ไม่มีใครได้เงิน
- เทิร์นจบ
- เกมเดินต่อไปยังดีลถัดไปในเทิร์นของผู้เล่นคนถัดไป
บ่อยครั้งดีลแตกจะมาพร้อมเสียงหัวเราะ หรือคำสบถแบบขำ ๆ ว่า “ฉันจะจำวันนี้ไว้เลย”
ตารางสรุปลำดับการเล่นในหนึ่งเทิร์น
ตารางนี้เอาไว้เปิดข้างโต๊ะสำหรับมือใหม่ได้เลย
| ขั้น | เกิดอะไรขึ้นบ้าง | ใครมีบทบาทหลัก |
|---|---|---|
| เลือกดีล | ผู้เล่นตัดสินใจว่าจะเลื่อนดีล (ทอยเต๋า) หรือทำดีลปัจจุบัน | ผู้เล่นเจ้าของเทิร์น |
| เปิดดีล | ถ้าทำดีล ผู้เล่นกลายเป็น Boss เสนอการแบ่งหุ้น/เงิน | Boss |
| ต่อรอง | ทุกคนต่อรองขอเพิ่ม ขอแทรก ขอเปลี่ยนสัดส่วน | ทุกคนที่เกี่ยวข้อง |
| เล่นไพ่ | ใช้ไพ่ Influence เพื่อป่วนหรือช่วยดีล (เพิ่ม/ตัด Investor, ยึด Boss ฯลฯ) | ทุกคนที่มีไพ่ในมือ |
| ตัดสิน | ถ้าทุกฝ่ายจำเป็นโอเค ดีลผ่าน แจกเงิน ถ้าไม่ตกลง ดีลแตก | ทั้งโต๊ะร่วมกันตัดสิน |
ทำความเข้าใจไพ่ Influence แบบละเอียด
เพื่อให้มือใหม่ไม่มึนเวลาเห็นไพ่หลายแบบ มาดูบทบาทสำคัญของไพ่กันแบบภาพรวม
ไพ่เพิ่มโอกาสเข้าดีล
หน้าที่: ทำให้คนที่เดิมไม่มี Investor สำคัญ สามารถดันตัวเองเข้าไปในดีลได้
การใช้งาน:
- ถ้าคุณไม่ได้มีชื่อ Investor ที่ดีลต้องใช้ แต่มีไพ่ที่ทำให้คุณ “แทน Investor ได้ชั่วคราว”
- คุณก็มีสิทธิ์ขอส่วนแบ่งในดีลนั้นทันที
- ใช้ตอนดีลมูลค่าสูงจะคุ้มเป็นพิเศษ
ไพ่ปิดประตูคนอื่นชั่วคราว
หน้าที่: ทำให้ Investor ตัวหนึ่งไม่สามารถใช้ได้ในดีลนั้น (เช่น ไปต่างประเทศ)
ผลลัพธ์:
- ถ้า Investor ตัวนั้นสำคัญ ดีลจะสะดุดทันที
- คนที่ถือ Investor ตัวนั้นจะเสียอำนาจ และอาจโดน “ถอดออกจากดีล”
กึ่ง ๆ เป็นไพ่สไตล์ “ฉันไม่ให้ดีลง่ายขนาดนั้นหรอก”
ไพ่ยึด Investor
หน้าที่: แย่ง Investor จากมือเพื่อนมาเป็นของเรา
ข้อเสีย/ข้อดี:
- ใช้แล้วมีโอกาสโดนเพื่อนโวย แต่คุ้มมากในดีลใหญ่
- ทำให้เรากลายเป็นคนสำคัญต่อดีลแทนคนเดิม
ไพ่แย่ง Boss
หน้าที่: เปลี่ยน Boss กลางดีล
ความโหดคือ
- จากที่เกือบจบดีลแล้ว คนทั้งโต๊ะต้องมานั่งฟังข้อเสนอชุดใหม่จาก Boss คนใหม่
- ดราม่าเกิดตรงนี้แหละ เพราะคนที่ได้เยอะในข้อเสนอแรกอาจโดนหั่นลงทันที
ไพ่ยกเลิกไพ่
หน้าที่: เป็นกลไกบาลานซ์ไม่ให้ไพ่ใบอื่นโกงเกินไป
ตัวอย่าง:
- ถ้ามีคนเล่นไพ่ส่ง Investor สำคัญไปต่างประเทศ คุณอาจใช้ไพ่ยกเลิก เพื่อทำให้ Investor กลับมามีผลอีกครั้ง
ตัวอย่างสถานการณ์ให้เห็นภาพโต๊ะจริง
ลองสมมติหนึ่งดีล
- ดีลหมายเลข 10
- มีหุ้นรวม 8
- ราคา/หุ้น = 4 ล้าน
- ต้องใช้ Investor A, B, C
สมมติว่า
- คุณถือ A
- เพื่อนซ้ายถือ B
- เพื่อนขวาถือ C
Boss (เป็นคุณ) เปิดข้อเสนอแรกว่า
- คุณ: 3 หุ้น (12 ล้าน)
- เพื่อนซ้าย: 2 หุ้น (8 ล้าน)
- เพื่อนขวา: 2 หุ้น (8 ล้าน)
- อีก 1 หุ้นให้เพื่อนอีกคนที่อยากดึงเข้ามาช่วย
เพื่อนขวาอาจบอกว่า
“ฉันถือ Investor C คนเดียวนะ ให้ 2 หุ้นน้อยไป ขอ 3 หุ้นเลย”
เพื่อนอื่นที่ไม่มี Investor แต่มีไพ่เพิ่มโอกาสเข้าดีลอาจแทรก
“ถ้าให้ฉัน 1 หุ้น ฉันจะไม่เล่นไพ่ป่วนดีลนี้ และช่วยกดดันให้คนอื่นโอเคด้วย”
ระหว่างนี้
- มีเพื่อนอีกคนเล่นไพ่ส่งเพื่อนซ้าย (Investor B) ไปต่างประเทศ ดีลใช้ B ไม่ได้แล้ว
- เขาพร้อมเสนอข้อใหม่ว่า “เอ้า…งั้นฉันมีไพ่ดึง Investor คนใหม่เข้ามาแทน แล้วขอส่วนแบ่ง 2 หุ้น”
ตอนทุกอย่างกำลังจะลงตัว อาจมีคนที่ซุ่มเงียบ เล่นไพ่ “I’m the Boss!” แย่ง Boss มา แล้วตั้งข้อเสนอใหม่ทั้งชุด
นี่แหละสิ่งที่ทำให้เกมนี้คาดเดาไม่ได้ และหัวเราะกันดัง ๆ ได้แทบทุกดีล
ทริกสำคัญสำหรับมือใหม่: เล่นยังไงให้ไม่หลุดออกจากเกม
แม้เกมนี้จะไม่มีใคร “ตกรอบ” แต่ถ้าคุณเล่นผิดวิธี คุณอาจกลายเป็นคนบนโต๊ะที่ไม่มีใครอยากดีลด้วย
เคล็ดลับคือ
- อย่าปิดดีลทุกอันให้ตัวเองได้เยอะสุดเสมอ
- ทำแบบนั้นหนึ่ง–สองครั้งแรกอาจเวิร์ก
- แต่ต่อไปคนทั้งโต๊ะจะพร้อมป่วนคุณตลอด
- รักษาชื่อเสียงว่าเป็นคนคุยแล้วจบง่าย
- ถ้าเพื่อนรู้สึกว่าพูดกับคุณแล้ว “คุยง่าย”
- พวกเขาจะดึงคุณเข้าไปอยู่ในดีลบ่อยขึ้น
- อย่าเผาไพ่ Influence หมดมือตั้งแต่กลางเกม
- ท้ายเกมดีลมักเงินเยอะกว่า
- ถ้าตอนนั้นคุณไม่มีไพ่เลย คุณจะถูกลากเข้าดีลแบบเสียเปรียบง่าย ๆ
- เช็กเงินตัวเองเป็นระยะ
- รู้อยู่เสมอว่าตัวเองนำ/ตามห่างแค่ไหน
- ถ้าตามมาก ควรรอจังหวะดีลใหญ่ที่ทำให้ตามทันได้จริง
- ถ้านำมาก ก็อย่าบวกอีกจนคนอื่นหัวร้อนร่วมกันรุมป่วน
รูปแบบโต๊ะที่เล่นแล้วสนุกเป็นพิเศษ
จากประสบการณ์คนเล่นกันบ่อย ๆ จะมี “สไตล์โต๊ะ” ที่เข้ากับเกมนี้มาก ๆ
โต๊ะเพื่อนสายแซะ
- ทุกคนชอบยิงมุก ชอบแซว
- การต่อรองจะเป็นไปในแบบขำ ๆ
- ดีลที่แตกยังกลายเป็นเรื่องเล่าให้หัวเราะต่อได้อีก
โต๊ะสายละครเวที
- ก่อนไล่ดีลทุกคนตั้งบทบาทของตัวเอง
- CEO สายดุม
- เศรษฐีสายใจดี
- นักลงทุนหน้าใหม่ไฟแรง
- เวลาเจรจาไม่ได้พูดในมุม “ตัวเอง” แต่พูดในมุม “ตัวละคร”
โต๊ะสายจริงจังแต่ใจดี
- มีคนสายคำนวณหนัก ๆ คอยดูว่าใครกำลังนำ/ตาม
- แต่ทุกคนตกลงกันชัดว่า “เล่นเอาสนุก ไม่ดราม่า”
- ทำให้อารมณ์เกมเหมือนจำลองโลกธุรกิจแบบซอฟต์ ๆ
ไม่ว่าจะเป็นโตะแบบไหน สิ่งสำคัญคือการตกลงกันก่อนเริ่มว่า เกมนี้มีหักหลังได้ แต่ให้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของละครบนโต๊ะ ไม่ใช่ชีวิตจริง
FAQ คู่มือบอร์ดเกม I’m the Boss
ถาม: ถ้าไม่เคยเล่นบอร์ดเกมมาก่อนเลย เริ่มที่เกมนี้จะยากไหม?
ตอบ: ไม่ยากเกินไป ถ้ามีคนหนึ่งที่อ่านกติกามาแล้วคอยอธิบายให้ ทุกอย่างจะเข้าใจได้ใน 10–15 นาทีแรก ที่เหลือคือเรื่องการพูดคุยและต่อรอง ซึ่งทุกคนทำกันอยู่แล้วในชีวิตจริง แค่ย้ายมาใส่สีสันบนโต๊ะเกมเท่านั้นเอง
ถาม: ใช้เวลานานแค่ไหนต่อหนึ่งเกม?
ตอบ: โดยทั่วไปประมาณ 60–90 นาที ขึ้นกับจำนวนผู้เล่น และความพูดยาวของแต่ละคน ถ้าทุกคนชอบคุย ชอบต่อรอง ยาวหน่อยเป็นเรื่องปกติ
ถาม: เล่นกี่คนกำลังดี?
ตอบ: เกมรองรับได้ประมาณ 3–6 คน แต่จุดที่สนุกสุด ๆ มักอยู่ที่ 5–6 คน เพราะมีคนให้ดีลด้วยเยอะ มีคนป่วนดีลมากพอให้ดราม่ากำลังดี
ถาม: เกมนี้มีดราม่าหนักไหม จะตีกันไหมเนี่ย?
ตอบ: ถ้าตั้งโทนดี ๆ ตั้งแต่เริ่มว่า “ทุกอย่างในเกมคือเล่น ๆ” ส่วนใหญ่จะจบด้วยเสียงหัวเราะมากกว่างอนกันจริง ๆ ถ้ารู้สึกว่าเพื่อนบางคนเซนซิทีฟ ก็อาจลดการใช้ไพ่ป่วนแรง ๆ ใส่เขาโดยเฉพาะ หรือเล่นโหมดเน้นฮามากกว่าจริงจังได้
ถาม: ต้องเก่งภาษาอังกฤษไหม?
ตอบ: ถ้ากล่องเป็นภาษาอังกฤษ จะมีช่วงแรกที่ต้องอธิบายความหมายของไพ่ให้คนอื่นฟัง แต่พอเข้าใจแล้ว การเล่นต่อไปใช้ภาษาอะไรก็ได้บนโต๊ะ ส่วนใหญ่ใช้คำบ้าน ๆ แบบ “ขอเพิ่ม 1 หุ้น”, “ดีลไม่ผ่านนะ”, “ฉันแย่งเป็น Boss” ก็พอ
ถาม: มีเวอร์ชันครอบครัวเล่นได้ไหม?
ตอบ: เล่นกับครอบครัวได้ถ้าทุกคนโอเคกับการแซวกันและหักหลังกันในระดับขำ ๆ ถ้าเล่นกับเด็กหรือคนที่ไม่คุ้นกับแนวนี้ อาจเริ่มด้วยดีลเล็ก ๆ ใจดี ๆ ก่อน แล้วค่อยเพิ่มความเข้มทีหลัง
ถาม: ถ้าเพื่อนบางคนพูดไม่เก่ง จะโดนกลืนไหม?
ตอบ: ไม่จำเป็นเสมอไป คนพูดไม่เก่งอาจเล่นบท “นักวางแผนเงียบ ๆ” ที่คอยเก็บ Investor สำคัญและเลือกเข้าดีลเฉพาะจังหวะทอง แถมเกมนี้ยังเปิดโอกาสให้คนเงียบใช้ “ไพ่ในมือ” แทนเสียงพูดได้ด้วย
คู่มือบอร์ดเกม I’m the Boss ที่ดี คือการชวนคนรอบตัวมาหัวเราะร่วมกัน
อ่านมาถึงตรงนี้ คุณน่าจะเห็นภาพแล้วว่า เกมนี้ไม่ใช่แค่กองการ์ดและกระดานที่เต็มไปด้วยตัวเลข แต่มันคือเวทีเล็ก ๆ ที่ให้เราได้ลองเป็นนักเจรจา นักธุรกิจ นักแถ และนักอ่านใจคนในเวลาเดียวกัน
การมี คู่มือบอร์ดเกม I’m the Boss ดี ๆ สักหนึ่งชุด ไม่ได้มีไว้แค่อธิบายกติกาให้ถูกต้อง แต่มีไว้เพื่อเตือนเราด้วยว่า เป้าหมายของเกมไม่ใช่แค่การรวยสุดโต๊ะ แต่คือการได้ใช้เวลาค่ำคืนหนึ่ง แบ่งปันเสียงหัวเราะ ความฮา ความหมั่นไส้แบบเล่น ๆ และโมเมนต์ที่ทุกคนพร้อมจะพูดว่า “ดีลนี้มันในตำนานจริง ๆ”
บางคนอาจจะชอบต่อยอดจากโต๊ะบอร์ดเกม ไปลองลุ้นในสนามอื่นบ้างในยามดึก ไม่ว่าจะเป็นกีฬา เกม หรือความบันเทิงรูปแบบไหนก็ตาม อาจมีแพลตฟอร์มในใจอย่าง ยูฟ่าเบท เป็นอีกหนึ่งเวทีให้ตัวเองไปลองเล่าเรื่องราวความลุ้นในแบบใหม่ แต่อย่าลืมว่าทั้งหมดนี้ควรอยู่ในกรอบความพอดี มีสติ และไม่เกินลิมิตของเราเอง
สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าคุณจะเป็น Boss ที่ชนะด้วยจำนวนเงิน หรือเป็นคนที่ทำให้ทุกดีลเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ แค่ทุกครั้งที่หยิบเกมนี้ขึ้นมา คุณได้สร้างคืนเล็ก ๆ ที่หัวใจอุ่นขึ้นนิดหนึ่ง แค่นั้นก็ถือว่าคุณชนะในแบบของตัวเองแล้ว และหวังว่าทุกครั้งที่คุณจัดโต๊ะ หยิบกระดาน วางเงินกองกลาง และเรียกเพื่อนมาล้อมวง คู่มือบอร์ดเกม I’m the Boss ฉบับละเอียดเล่มนี้จะช่วยให้คุณพาทุกคนเข้าสู่ค่ำคืนแห่งดีลสุดป่วนได้อย่างมั่นใจ 😊🎲💼